All Collections
Ticket Types | การสร้างประเภทบัตร
สร้างประเภทบัตรใน Event
สร้างประเภทบัตรใน Event

How to create your tickets

Jenny Eventpop avatar
Written by Jenny Eventpop
Updated over a week ago

แนะนำวิธีการสร้างบัตรเพื่อขาย/ลงทะเบียน และเก็บข้อมูล

เราอยากให้คุณเข้าใจวิธีการและสามารถสร้างบัตรได้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

ขั้นตอนแรก

เริ่มต้นจากการเข้าไปที่ Event ของคุณ แล้วเข้าไปที่เมนู Ticket Types [1.] [2.] จากนั้น กดที่ปุ่ม Create Ticket Types [3.]

ขั้นตอนที่สอง (Ticket Type Details)

หลังจากที่คุณกดสร้างบัตรแล้ว ระบบจะพาคุณมาที่ Ticket Type Details เพื่อให้คุณกรอกข้อมูลเกี่ยวกับบัตรของคุณ โดยในส่วนนี้จะแบ่งออกเป็น

  1. Ticket Type Name - ชื่อของบัตร เช่น Early Bird, General, Regular หรือ VIP เป็นต้น

  2. This ticket type is complimentary ticket - การสร้างบัตรแยกประเภทสำหรับบุคคลคุณต้องการให้บัตร เช่น ผู้ได้รับเชิญ หรือ กลุ่มผู้เข้าร่วมงาน VIP/Sponsor เป็นต้น โดยคุณจะเป็นผู้ออกบัตรให้บุคคลเหล่านี้เองจากระบบ (ดู : การสร้างบัตร Complimentary)

  3. This ticket type is package - การสร้างบัตรแบบกลุ่ม หรือโปรโมชั่นแพคเกจ เช่น สามารถซื้อบัตร 3 ใบ ได้ในราคา 2 ใบ เป็นต้น (ดู : การสร้างบัตร Package)

  4. Quantity Available - กำหนดจำนวนของบัตรประเภทนั้น

  5. Ticket Type Description (Optional) - สามารถกรอกรายละเอียดของบัตร เช่น ซื้อบัตรแล้ว แถมแพ็คเกจเรียนฟรี 3 เดือน และหนังสือ ในราคา 300.- เป็นต้น (หากกรอกรายละเอียดของบัตร อย่าลืมกด Show ticket description on event page ด้วย เพื่อให้ข้อมูลแสดงขึ้นมาที่หน้าเว็บไซต์)

ขั้นตอนที่สาม (Pricing)

การกำหนดราคาบัตร (Pricing Model) [1.] คลิก Paid Ticket หากเป็นบัตรขาย คุณสามารถกำหนดราคาได้ที่ช่อง Ticket Price [2.] หรือ คลิก Free Ticket หากเป็นบัตรฟรีลงทะเบียน

ขั้นตอนที่สี่ (Sales Period)

การกำหนดเวลาในการเปิด/ปิดการขายบัตร โดยกำหนด วัน/เดือน/ปี และเวลา ในช่อง Sales Start Date and Time [1.] และในส่วนถัดมา [2.] Option ต่างๆที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเห็นข้อมูลของส่วนการเปิด/ปิดขายบัตรได้ง่ายขึ้น ดังนี้

- Preview this ticket before sale is started : เปิดให้เห็นบัตรก่อนเปิดการขาย
- Hide price when ticket is on preview :
ซ่อนราคาบัตรขณะทำการ Preview
- Hide this ticket after sale is ended :
ซ่อนบัตรเมื่อปิดการขาย
- Hide sale start at in event page :
ซ่อน วัน/เดือน/ปี ที่เปิดการขาย
- Hide sale end at in event page :
ซ่อน วัน/เดือน/ปี ที่ปิดการขาย

ตั้งค่าง่ายๆด้วยการคลิกเพื่อเปิดการใช้งาน

ขั้นตอนที่ห้า (Rules and Limitations)

ส่วนนี้มีไว้เพื่อกำหนดจำนวนของบัตรให้ผู้ซื้อบัตรเห็นที่หน้าเว็บไซต์ และการเข้ารหัสเพื่อรับบัตร ดังนี้

  1. Order Limits - ใช้เพื่อกำหนดจำนวนขั้นต่ำในการกดซื้อบัตร และกำหนดจำนวนสูงสุดในการซื้อบัตรได้ในแต่ละครั้ง เช่น Order minimum = 1 และ Order maximum = 10 คือ ผู้ซื้อบัตรสามารถซื้อขั้นต่ำได้ครั้งละ 1 ใบ และสูงสุดไม่เกิน 10 ใบ เป็นต้น

  2. Ticket Visibility - ใช้เพื่อซ่อนบัตรไม่ให้คนเห็นได้ เฉพาะผู้ที่มีรหัส (Access code) เท่านั้น ถึงสามารถพิมพ์และกดรับบัตรได้

  3. Unlockable - ใช้เพื่อล็อคบัตรไม่สามารถกดซื้อได้และผูกกับโค้ดส่วนลดเพื่อปลดล็อคเท่านั้น โดยผู้ซื้อต้องมี 'โค้ด' เพื่อนำมาพิมพ์ใส่เพื่อปลดล็อค ซึ่งก่อนพิมพ์โค้ด คุณสามารถใส่รายละเอียดของการปลดล็อค หรือข้อมูลที่จำเป็นต่อการปลดล็อคได้ใน Unlockable description

ขั้นตอนที่หก (Age Restriction)

เลือกกำหนดอายุขั้นต่ำ และสูงสุดของผู้เข้าร่วมงานได้ โดยคุณสามารถกำหนดอายุขั้นต่ำได้ที่ Minimum Age [1.] และสูงสุดได้ที่ Maximum Age [2.] ซึ่งคุณสามารถเลือกกำหนดอย่างใดอย่างหนึ่ง, กำหนดทั้งคู่ หรือ ไม่กำหนดเลย ก็ได้ เช่น กำหนด Minimum Age = 20 yrs. และ Maximun Age = 70 yrs. คือ บัตรประเภทนี้จะเปิดให้ซื้อกับผู้ที่อายุ 20 ปี ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 70 ปี เป็นต้น (ระบบจะคัดกรองอายุจากตอนที่ User สมัครใช้งานและกรอกวัน/เดือน/ปี เกิด)

ขั้นตอนที่เจ็ด (Ticket Type Form Fields)

คุณสามารถเลือกสร้างแบบสอบถามแก่ผู้ซื้อบัตรได้ เพื่อให้ผู้ซื้อบัตรตอบคำถามก่อนกดชำระเงินหรือรับบัตร

โดยข้อมูลเบื้องต้นที่ Eventpop เก็บไว้ให้กับคุณแล้วคือ ชื่อ นามสกุล Email และเบอร์โทรศัพท์ ของผู้ซื้อบัตร ซึ่งในส่วนนี้คุณไม่จำเป็นต้องถามเพิ่มเติม

การสร้างแบบฟอร์มคำถาม สามารถสร้างได้ด้วยการกดที่ปุ่ม Add New Field [5.] หลังจากนั้น คุณสามารถพิมพ์คำถามได้ที่ช่อง Question [1.] และเลือกประเภทของคำตอบได้ที่ Field Type [2.] ซึ่งถ้าหากคำถามข้อนี้เป็นคำถามที่บังคับตอบ ให้คุณเลือก Required to be filled [3.] ท้ายสุดหากคุณมีคำอธิบายในการตอบคำถาม ให้คุณใส่ไว้ที่ Placeholder [4.]

ซึ่งคุณสามารถสร้างคำถามได้หลายข้อ หากคุณต้องการสร้างคำถามเพิ่มเติม สามารถกดสรางเพิ่มได้ที่ปุ่ม Add New Field [5.]

_____________________________________________________

ส่วนของ Field Types [2.] ระบบของเรามีให้เลือกประเภทคำตอบต่างๆดังนี้

  1. Short Text - กำหนดให้ตอบเป็นคำตอบสั้น เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน, ชื่อบริษัท เป็นต้น

  2. Long Text - กำหนดให้ตอบเป็นคำตอบแบบยาว เช่น ที่อยู่ เป็นต้น

  3. Dropdown - กำหนดให้เลือกตอบได้อย่างใดอย่างหนึ่ง แบบมีกล่องสไลด์ลงมาให้เลือก

  4. Radio Button - กำหนดให้เลือกตอบได้อย่างเดียว โดยคุณกำหนดคำตอบให้เลือก

  5. Checkbox - กำหนดให้เลือกตอบได้หลายข้อ โดยคุณเป็นผู้กำหนดคำตอบ

  6. Number - กำหนดให้ตอบเป็นตัวเลข โดยขึ้นต้นตั้งแต่ 1 เป็นต้นไป เช่น เบอร์โทรศัพท์ หรือรหัสสมาชิกต่างๆ เป็นต้น

  7. File - สามารถแนบไฟล์ส่งมาเป็นคำตอบได้ (ขนาดไม่เกิน 2 mb)

  8. Image - สามารถแนบรูปภาพส่งมาเป็นคำตอบได้ (ขนาดไม่เกิน 2 mb)

ในส่วนของการ Preview [7.] แบบสอบถาม ระบบจะแสดงให้ดูเบื้องต้นว่าผู้ซื้อบัตรจะเห็นคำถามในรูปแบบใด ตามรูปภาพ

และในส่วนสุดท้ายคือการ Import [8.] คุณสามรถเลือก Import แบบฟอร์มคำถามที่เคยสร้างไว้แล้ว เพื่อให้คำถามนั้นมาอยู่ในบัตรประเภทอื่นๆที่มีใน Event นั้นๆ

Did this answer your question?